วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ขอสอบคำสั่ง netstat

ขอสอบ คำสั่ง netstat
1.การตรวจสอบแบบแมนนวลโดยใช้ยูทิลิตี้ netstat ซึ่งมีมาพร้อมกับระบบ
ก.Windows XP
ข.Windows Vista
ค.Windows XP และ Windows Vista
ง.ไม่มีขอทูก
2.คำสั่ง netstat ใช้ในการตรวจสอบการทำงานของโปรโตคอล
ก.TCP
ข.UDP
ค.ICMD
ง.ทูกทุกขอ
3.คำสั่ง netstat ใช้ในการตรวจสอบการทำงานของโปรโตคอลมีกีตัว
ก.1ตัว
ข.2ตวั
ค.3ตวั
ง.4ตัว
4.State เป็นสถานะ ESTABLISHED หมายความว่า
ก.เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่อง 2 เครื่องได้แล้ว
ข.เป็น IP ของเครื่องที่มา hack
ค.เป็นสถานะ LISTENING
ง.เป็นสถานะ TIME_WAIT
5.สีเหลือง เป็นสถานะ
ก.ESTABLISHED
ข.LISTENING
ค.TIME_WAIT
ง.Local Address qillip:telnet
6.การใช้โปรแกรม NETSTAT
ก.เป็นคำสั่งที่ใช้ตรวจสอบ Network เกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Port
ข.เป็นคำสั่งที่ใช้ตรวจสอบ DOS Prompt
ค.เป็นคำสั่งที่ใช้ตรวจสอบOpiton
ง.เป็นคำสั่งที่ใช้ตรวจสอบHACK
7.คือโปรโตคอลที่เครื่องกำลังเชื่อมต่ออยู่
ก. Proto TCP
ข.Local Address qillip:telnet
ค.Foreign Address qillip
ง.State LISTENING
8.สีฟ้า เป็นสถานะ
ก.LISTENING
ข. TIME_WAIT
ค.ESTABLISHED
ง. Foreign Address
9.การใช้ netstat ตรวจสอบการถูกยิงด้วย syn
ก.คำสั่ง netstat -ntu grep SYN_RECV
ข.คำสั่ง netstat -ntu grep ESTABLISHED
ค.คำสั่ง install iptraf
ง.คำสั่ง iptables -A INPUT
10. การใช้ netstat นับจำนวน connetion ของแต่ละ IP
ก.iptables -A INPUT -s xxx.xxx.xxx.xxx -j DROP
ข.iptables -A INPUT -s xxx.xxx.xxx.xxx/xx -j DROP
ค.คำสั่ง netstat -ntu grep ESTABLISHED
ง.iptables -A INPUT -p udp --dport 80 -j DROP

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การบ้าน 18.06.2551

1. ความหมายของIEEE 802.3
IEEE 802.3 หรือ อีเทอร์เน็ต (Ethernet) เป็นเครือข่ายที่มีความเร็วสูงการส่งข้อมูล 10 เมกะบิตต่อวินาที สถานีในเครือข่ายอาจมีโทโปโลยีแบบัสหรือแบบดาว IEEE ได้กำหนดมาตรฐานอีเทอร์เน็ตซึ่งทำงานที่ความเร็ว 10 เมกะบิตต่อวินาทีไว้หลายประเภทตามชนิดสายสัญญาณเช่น
• 10Base5 อีเทอร์เน็ตโทโปโลยีแบบบัสซึ่งใช้สายโคแอกเชียลแบบหนา (Thick Ethernet) ความยาวของสายในเซกเมนต์หนึ่ง ๆ ไม่เกิน 500 เมตร
• 10Base2 อีเทอร์เน็ตโทโปโลยีแบบบัสซึ่งใช้สายโคแอ๊กเชียลแบบบาง (Thin Ethernet) ความยาวของสายในเซกเมนต์หนึ่ง ๆ ไม่เกิน 185 เมตร
• 10BaseT อีเทอร์เน็ตโทโปโลยีแบบดาวซึ่งใช้ฮับเป็นศูนย์กลาง สถานีและฮับเชื่อมด้วยสายยูทีพี (Unshield Twisted Pair) ด้วยความยาวไม่เกิน 100 เมตร
รูปที่ข้างล่าง แสดงถึงลักษณะเครือข่ายอีเทอร์เน็ตแยกตามประเภทของสายสัญญาณ รหัสขึ้นต้นด้วย 10 หมายถึงความเร็วสายสัญญาณ 10 เมกะบิตต่อวินาที คำว่า “Base” หมายถึงสัญญาณชนิด “Base” รหัสถัดมาหากเป็นตัวเลขหมายถึงความยาวสายต่อเซกเมนต์ในหน่วยหนึ่งร้อยเมตร (5=500, 2 แทนค่า 185) หากเป็นอักษรจะหมายถึงชนิดของสาย เช่น T คือ Twisted pair หรือ F คือ Fiber optics
ส่วนมาตรฐานอีเทอร์เน็ตความเร็ว 100 เมกกะบิตต่อวินาทีที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่ 100BaseTX และ 100BaseFX สำหรับอีเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบกิกะบิตอีเทอร์เน็ตเริ่มแพร่หลายมากขึ้น ตัวอย่างของมาตรฐานกิกะบิตอีเทอร์เน็ตในปัจจุบันได้แก่ 100BaseT, 100BaseLX และ 100BaseSX เป็นต้น อีเทอร์เน็ตใช้โปรโตคอล ซีเอสเอ็มเอ/ซีดี (CSMA/CD : Carrier Sense Multiple Access with Collision Detection) เป็นตัวกำหนดขั้นตอนให้สถานีเข้าครอบครองสายสัญญาณ ในขณะเวลาหนึ่งจะมีเพียงสถานีเดียวที่เข้าครองสายสัญญาณเพื่อส่งข้อมูล สถานีที่ต้องการส่งข้อมูลต้องการตรวจสอบสายสัญญาณว่ามีสถานีอื่นใช้สายอยู่หรือไม่ ถ้าสายสัญญาณว่างก็ส่งข้อมูลได้ทันที หากไม่ว่างก็ต้องคอยจนกว่าสายสัญญาณว่างจึงจะส่งข้อมูลได้ ขณะที่สถานีหนึ่ง ๆ กำลังส่งข้อมูลก็ต้องตรวจสอบสายสัญญาณไปพร้อมกันด้วยเพื่อตรวจว่าในจังหวะเวลาที่ใกล้เคียงกันนั้นมีสถานีอื่นซึ่งพบสายสัญญาณว่างและส่งข้อมูลมาหรือไม่ หากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นแล้ว ข้อมูลจากทั้งสองสถานีจะผสมกันหรือเรียกว่า การชนกัน (Collision) และนำไปใช้ไม่ได้ สถานีจะต้องหยุดส่งและสุ่มหาเวลาเพื่อเข้าใช้สายสัญญาณใหม่ ในเครือข่ายอีเทอร์เน็ตที่มีสถานีจำนวนมากมักพบว่าการทานจะล่าช้าเพราะแต่ละสถานีพยายามยึดช่องสัญญาณเพื่อส่งข้อมูลและเกิดการชนกันเกือบตลอดเวลา โดยไม่สามารถกำหนดว่าสถานีใดจะได้ใช้สายสัญญาณเมื่อเวลาใด อีเทอร์เน็ตจึงไม่มีเหมาะกับการใช้งานในระบบจริง
2.10 Base 2
10 Base 2 เป็นรูปแบบต่อสายโดยใช้สาย Coaxial มีเส้นศูนย์กลาง 1/4 นิ้ว เรียกว่า Thin Coaxial สายจะมีความยาวไม่เกิน 180 เมตร
มาตรฐาน 10 Base 2 ความหมาย 10 คือความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps Base คือการส่งข้อมูลแบบ Baseband 2 คือความยาวสูงสุด 200 เมตร (185 – 200 เมตร ) 10 Base 2 เป็นแบบเครือข่ายที่ใช้สาย Coaxial แบบบาง (Thin Coaxial) ชนิด RG-58 A/U โดยจะมี Teminator (50 โอมห์ ) เป็นตัวปิดหัว และท้ายของเครือข่าย
ข้อกำหนดของ 10 Base 2
• ใช้สาย Thin Coaxial ชนิด RG-58 A/U
• หัวที่ใช้ต่อกับสายคือ หัว BNC
• ห้ามต่อหัว BNC เข้ากับ LAN Card โดยตรง ต้องต่อด้วย T-Connector เท่านั้น
• เครื่องตัวแรกและตัวสุดท้ายในเครือข่าย ต้องปิดด้วย Terminator ขนาด 50 โอมห์
• ความยาวของสายแต่ละเส้นที่ต่อระหว่าง Workstation ต้องมีความยาวไม่ต่ำกว่า 0.5 เมตร
• สายสัญญาณต่อ 1 Segment ยาวไม่เกิน 200 เมตร (185 – 200 เมตร )
• ใน 1 Segment สามารถต่อเป็นเครือข่ายได้ไม่เกิน 30 เครื่อง
• ในกรณีที่ต้องการต่อมากกว่า 30 เครื่อง ต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Repeater เพื่อเพิ่ม Segment โดยสามารถต่อ Repeater ได้ไม่เกิน 4 Repeater ( ดังนั้น 4 Repeater = 5 Segment)
• ความยาวของสายสัญญาณทั้งหมด สูงสุด 1000 เมตร (200 เมตรต่อ 1 Segment คูณด้วย 5 Segment)
• จำนวนเครื่องสูงสุดในเครือข่าย 150 เครื่อง (30 เครื่องต่อ 1 Segment คูณด้วย 5 Segment)

3.10 Base 5
ความหมาย 10 คือความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps Base คือการส่งข้อมูลแบบ Baseband
• คือความยาวสูงสุด 500 เมตร 10 Base 5 เป็นแบบเครือข่ายที่มีลักษณะคล้ายกับ 10 Base 2 แต่จะใช้สาย Coaxial แบบหนา (Thick Coaxial หรือ Back Bone) เป็นสายชนิด RG-8 ซึ่งสายจะเป็นสีเหลืองและมีขนาดใหญ่โดย Teminator (50 โอมห์ ) เป็นตัวปิดหัว และท้ายของเครือข่าย เครือข่ายชนิด 10 Base 5 นี้ จะมีต่อจำนวนเครื่องได้มากกว่า และต่อในระยะได้ไกลกว่าแบบ 10 Base 2 แต่ในปัจจุบันมักไม่นิยมใช้กัน เนื่องจากต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ควรทราบ มีดังนี้ แผงวงจรเครือข่าย (LAN Card) คือแผงวงจรเครือข่ายที่เสียบไว้กับตัวเครื่อง และเชื่อมต่อด้วยสายเพื่อต่อเป็นเครือข่าย โดยแผงวงจรเครือข่ายนี้จะมีหัวเสียบเป็นชนิด DIX Connector Socket ( LAN Card ) ชนิด AUI ใช้กับมาตรฐาน 10 Base 5
ข้อกำหนดของ 10 Base 5
• ใช้สาย Thick Coaxial ชนิด RG-8
• หัวที่ใช้ต่อกับสายคือหัว DIX หรือบางทีอาจจะเรียกว่า หัว AUI
• เครื่องตัวแรกและตัวสุดท้ายในเครือข่ายต้องปิดด้วย N-Series Terminator ขนาด 50 โอมห์
• ระยะห่างระหว่าง Transceiver ต้องไม่ต่ำกว่า 2.5 เมตร
• Transceiver Cable จะมีความยาวได้ไม่เกิน 50 เมตร
• ใน 1 Segment สามารถต่อเป็นเครือข่ายได้ไม่เกิน 100 เครื่อง
• สายสัญญาณต่อ 1 Segment ยาวไม่เกิน 500 เมตร
• ในกรณีที่ต้องการต่อมากกว่า 100 เครื่อง ต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Repeater เพื่อเพิ่ม
Segment โดยสามารถต่อ Repeater ได้ไม่เกิน 4 Repeater (ดังนั้น 4 Repeater = 5 Segment)
• ความยาวของสายสัญญาณทั้งหมด สูงสุด 2,500 เมตร (500 เมตรต่อ 1 Segment คูณด้วย 5 Segment )
• จำนวนเครื่องสูงสุดในเครือข่าย 500 เครื่อง (100 เครื่องต่อ Segment คูณด้วย 5 Segment )
4.100BASE-FX
100BASE-FX Multimode LC SFP Transceiver (P/N: DEM-211) มอบประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงให้กับแอพพลิเคชันการสื่อสารข้อมูลแบบซีเรียลออพติคัลดาต้า นอกจากนั้นยังประกอบด้วยตัวเชื่อมต่อที่มีการทำงานแบบดูเพล็กซ์ LC รวมถึงยังสามารถใช้งานร่วมกับมาตรฐานการสื่อสารแบบ IEEE 802.3u เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเป็น 100 เมกะบิตต่อวินาที ในโหมดฮาฟดูเพล็กซ์สำหรับแอพพลิเคชันเคเบิลไฟเบอร์ ทั้งนี้การอินทริเกรทตัวรับส่งคุณภาพสูงของดีลิงค์นั้นก็เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ปราศจากอาการกระตุกของสัญญาณ และเพื่อให้การเชื่อมต่อแบบออพติคัลสามารถขยายออกไปได้มากยิ่งขึ้นโดยไม่มีการลดประสิทธิภาพลง อุปกรณ์นี้จึงช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะทางที่ไกลๆ ทั้งในส่วนของการใช้งานภายในอาคาร โรงงาน แคมปัสและในตัวเมืองมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น และเมื่อสวิตช์ 2 ตัวมีการเชื่อมต่อกันแล้วโดยใช้ตัวรับส่ง DEM-211 ทั้ง 2 ทาง ผู้ใช้งานจะได้รับอัตราเร็วของการเชื่อมต่อที่ระดับ 155 เมกะบิตต่อวินาที ยิ่งไปกว่านั้นยังได้มอบการเชื่อมต่อแบบไฟเบอร์ออพติค 100BASE-FX SFP บนพอร์ต Gigabit combo SFP ให้กับสวิตช์ของดีลิงค์อีกด้วย
5.100 Base F
100Base-Fสาย AMP OSP (Outside Plant) ถูกออกแบบมาเฉพาะ เพื่อการติดตั้งในพื้นที่ขนาดใหญ่ เพราะสามารถติดตั้งไว้บนเสาโยง หรือลอดท่อใต้ดิน เพื่อเชื่อมต่อระหว่างอาคาร สายถูกทดสอบตามมาตรฐาน TIA ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำหรับสายไฟเบอร์ออปติก ทั้งยังมีคุณสมบัติเกินมาตรฐานไปอีกขั้น จึงรองรับได้ทั้ง 100Base-F, 155/622 Mbps ATM และกิกะบิตอีเธอร์เน็ต

การบ้าน 18.06.2551

ออกขอสอบปรนัย
1. Subnet มาจากคำ อะไร
ก.Subnetwork
ข.collection
ค.Internet Request for Comment
ง.subnet mask
2.ข้อดีของการทำ Subnet Mask
ก.ทำให้เครือข่ายเวลา Broadcast ถามเสียเวลาน้อยกว่ามาก
ข.ทำให้แบ่งการใช้งานเป็นหลายๆวงได้ ซึ่งสะดวกต่อการดูแลรักษา
ค.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจ่าย Bandwidth ให้กับเครื่อง Client ต่างๆที่อยู่ในระบบ
ง.ถูกทุกขอ
3.127.0.0.0 lop back สำรับเครีองข่าย
ก.class A
ข.class B
ค.class c
ง.ไม่มีขอถูก
4.class A มี Host 2 24-2=16,777,214คือตั้งแต่
ก . 0.0.1 ถึง 255.255.25
ข .0.1.1 ถึง255.255.25
ค .0.0.1 ถึง255.255.24
ง .0.1.1 ถึง 255.255.24
5.class c มี Hostได้ 2
ก.8-2= 255
ข.8-2=254
ค.8-2=253
ง.8-2=252
6. Subnet Mask ไช้ตัวเลขขนาดใด
ก.64 บิต
ข.32 บิต
ค.16 บิต
ง. 8 บิต
7. subnet Mask 255.255.255.244 มีจำนวนเครืองใน
ก. 14
ข. 30
ค. 62
ง. 128
8.class A 255.0.0.0 ดิฟอลต็ซับน์ตมาสค์ฐานสอง
ก.11111111.00000000.00000000.00000000
ข.11111111.11111111.00000000.00000000
ค.11111111.00000000.00000000.11111111
ง. 11111111.00000000.00000000.11111111
9.Subnet Mask เป็นเลขฐานสองขนาดกีบิต
ก. 6 บิต
ข. 8 บิต
ค. 14 บิต
ง. 32 บิต
10. Class A มี 1 Byte สำหรับแสดง Class type และ Netid ส่วนอีก
ก. 1 Byte เป็น Hostid
ข. 2 Byte เป็น Hostid
ค. 3 Byte เป็น
Hostid
ง.ไม่มีขอถูก
ออกขอสอบ อัตนัย
1.หาจำนวน Bit ที่ Network Address จะต้องยืมจาก Host Address โดยใช้สูตร อะไร
แฉลย 1.นวน Bit ที่ Network Address จะต้องยืมจาก Host Address โดยใช้สูตร 2^x >=จำนวน Subnet ที่เราต้องการ
2. n เป็นจำนวนบิตของ Host ที่เหลือจากถูก Network Address ยืมไปแล้วจากตัวอย่างจำนวนบิตของ Host Address ถูกยืมไป 2 จาก 8 ดังนั้นจำนวนบิตหลังจากแบ่ง Subnet จึงเหลือแค่ 6 บิต ซึ่งจะได้
เฉลย 2. ( 2^6 )-2 = 62 Host
3.หน้าที่ของ Subnet Mask คืออะไรบ้าง
เฉลย 3.หน้าที่ของ Subnet Mask ก็คือ จะช่วยแยกแยะว่าส่วนใดภายใยหมายเลข IP Address เป็น Network Address และส่วนใดเป็น Host Address ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเวลาที่เรากำหนด IP Address เราจะต้องกำหนด Subnet Mask ไปด้วยทุกครั้ง
4.การเขียน IP Address และ Subnet Mask ในเอกสารเราจะเขียน168.108.2.1/16 แล้วเลข 16 มาได้อย่างไร
เฉลย 4.นั้นก็คือ Subnet Mask นั่นเอง เป็นการนับจำนวนบิตเลขฐานสองของ Subnet Mask ที่เป็นบิต 1 ทั้งหมด ซึ่งในที่นี้ Subnet Mask ก็คือ 255.255.0.0 เป็นเลขฐานสองก็คือ 11111111.11111111.00000000.00000000 นั่นเอง
5.การแบ่ง Subnet ใช้เทคนิคที่เรียกว่าอะไร
เฉลย 5. การแบ่ง Subnet ใช้เทคนิคที่เรียกว่า Subnet Mask ซึ่งเป็นตัวเลขมีความยาว 32 บิตแบ่งออกเป็นสี่ชุดเช่นเดียวกับ ip แต่ค่าของ subnet mask จะขึ้นอยู่กับความต้องการในการแบ่ง subnet ว่าต้องการจำนวน subnet เท่าใดและมีจำนวนโฮสเท่าใด หากนำ subnet mask มาเขียนเป็นเลขฐานสอง จะมีลักษณะพิเศษคือ ขึ้นต้นด้วยเลข 1 มีจำนวนกี่ตัวก็ได้ ตามแต่ความต้องการในการแบ่ง suubnetและตำแหน่งที่เหลือจะมีค่าเป็น 0
6.mask 7bit ของ class B ได้กี่ host
เฉลย 2^9=512-2=510

7. mask 6 bit ของclass c ได้กี่ host
เฉลย 2^2=4-2=2

8 . mask 7bit ของ class b มีหมายเลข subnet mask คืออะไร
เฉลย 255.254.0.0

9. mask 2 bit class B หมายเลข subnet
เฉลย 2^2=4-2=2

10. mask 6 bit class a หมายเลข host
เฉลย 2^18=262144-2=262142




วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การบ้าน 11.06.51

basic ‘s datacommunicationCommunication

การย้ายข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อให้เกิดประโยชน์เทคโนโลยีสมัยนี้มีการเชื่อมต่อกันทั่วโลกWhy Study Data Communication? เพื่อที่จะได้วิธีการย้ายข้อมูลที่ถูกต้อง และในสมัยก่อนมีความลำบากมากในการสื่อสาร จึงนำมาเป็นตัวแทนในการสื่อสารนิยามการสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล หมายถึง กระบวนการถ่ายทอด หรือการรับ-ส่งข้อมูล จากจุดใดจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ผ่านสื่อชนิดใดๆก็ได้ โดยข้อมูลจะหมายถึง ข้อความ รูปภาพ หรือสัญลักษณ์ก็ได้

ความหมาย ของ Basic’s IP AddressIP Address

คือหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอบด้วยตัวเลข 4 ชุด มีเครื่องหมายจุดขั้นระหว่างชุดการสื่อสารและรับส่งข้อมูลในระบบ Internet สิ่งสำคัญคือที่อยู่ของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ดังนั้นเพื่อให้เกิดความถูกต้องแม่นยำ จึ่ง ได้มีการกำหนดหมายเลขประจำเครื่องที่เราเรียกว่า IP Address และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและซ้ำกัน จึงได้มีการก่อตั้งองค์กรเพื่อ แจกจ่าย IP Address โดยเฉพาะ ชื่อองค์กรว่า Inter NIC (International Network Information Center) อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายนั้นทาง Inter NIC จะแจกจ่ายเฉพาะ Network Address ให้แต่ละเครือข่าย ส่วนลูกข่ายของเครื่อง ทางเครือข่ายนั้นก็จะเป็น ผู้แจกจ่ายอีกทอดหนึ่ง ดังนั้นพอสรุปได้ว่า IP Address จะประกอบด้วยตัวเลข 2 ส่วน คือ
1. Network Address 2. Computer Address การแบ่งขนาดของเครือข่าย เราสามารถแบ่งขนาดของการแจกจ่าย Network Address ได้ 3 ขนาดคือ
1. Class A nnn.ccc.ccc.ccc (nnn ชุดแรก ตัวเลขอยู่ระหว่าง 1-126) เครือข่าย Class A สามารถแจกจ่าย IP Address ได้มากที่สุดถึง 16 ล้านหมายเลข
2. Class B nnn.nnn.ccc.ccc (nnn ชุดแรก ตัวเลขอยู่ระหว่าง 128-191) เครือข่าย Class A สามารถแจกจ่าย IP Address ได้มากเป็นอันดับสอง คือ 65,000 หมายเลข
3. Class c nnn.nnn.nnn.ccc (nnn ชุดแรก ตัวเลขอยู่ระหว่าง 192-233) เครือข่าย Class A สามารถแจกจ่าย IP Address ได้น้อยที่สุด คือ 256 หมายเลขnnn หมายถึง Network Address ccc หมายถึง Computer Address หมายเลขต้องห้าม เนื่องจากเครือข่ายก็อาจจำเป็นต้องใช้ IP Address ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการจำกัดบางหมายเลขเพื่อใช้เป็นการภายใน
1. Class A ตั้งแต่ 10.xxx.xxx.xxx
2. Class B ตั้งแต่ 172.16.xxx.xxx ถึง 172.31.xxx.xxx
3. Class C ตั้งแต่ 192.168.0.xxx ถึง 192.168.255.xxxสำหรับภายในองค์กร ก็มีหมายเลขต้องห้ามเช่นกัน ได้แก่1. 127.xxx.xxx.xxx หมายเลขนี้ใช้สื่อสารกับตัวเอง2. 0.0.0.0

แปลง IP

209.123.226.168
11010001 01111011 11100010 10101000

198.60.70.81
11000110 00111100 01000110 01010001


CIDR
/22
11111111.11111111.11111100.00000000
Subnet Mask = 255. 255. 252. 0จำนวน
Host = (2^10) - 2 = 1024 - 2 = 1022 Host

/18
11111111.11111111.11000000.00000000
Subnet Mask = 255. 255. 192. 0จำนวน
Host = (2^14) -2 = 16384 -2 = 16382 Host

/27
11111111.11111111.11111111.11100000
Subnet Mask = 255. 255. 255. 240
จำนวน Host = (2^5) – 2 = 32 – 2 = 30 Host

ข้อสอบเรื่อง CIDR 5 ข้อ

1. Subnet Mask ของ Length (CIDR) /7 คือข้อ
ก. 248.0.0.0
ข. 252.0.0.0
ค. 254.0.0.0
ง. 255.0.0.0

2. Subnet Mask = 255. 255. 255. 240 แปลงเป็นเลขฐานสองได้ข้อใด
ก. 11000110 00111100 01000110 01010001
ข. 11111111 11111111 11111100 00000000
ค. 11111111 11111111 11000000 00000000
ง. 11111111 11111111 11111111 11100000



3. CIDR มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าอะไร
ก. Super net
ข. subnet
ค. broadcast
ง. ไม่มีข้อถูก

4. ข้อใดคือ Subnet Mask ของ IP address 45 . 23 . 21 . 8
ก. 255 . 255 . 0 . 0
ข. 255 . 255 . 255 . 0
ค. 255 . 192 . 0 . 0
ง. 255 . 255 . 255 . 240เฉลย ก. 255 . 255 . 0 . 0

5. หมายเลข Host มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าอะไร
ก.Prefix
ข. Suffix
ค. Perfix
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ค

ข้อสอบเรื่อง IP 5 ข้อ
1. IP Address มีอยู่กี่บิต
ก. 4 บิต
ข. 8 บิต
ค. 16 บิต
ง. 32 บิต

2. IP Address จะประกอบด้วยตัวเลข 2 ส่วน คืออะไร
ก. Network Address และ Computer Address
ข. Computer Address และ Internet Address
ค. Network Address และ Internet Address
ง. ถูกทุกข้อ
3. 209.123.226.168 อยู่ในclass อะไร
ก. Class A
ข. Class B
ค. Class C
ง. Class D

4. การจำกัดบางหมายเลขเพื่อใช้เป็นการภายใน หมายเลขใดที่อยู่ใน class B
ก. ตั้งแต่ 10.xxx.xxx.xxx
ข. ตั้งแต่ 172.16.xxx.xxx ถึง 172.31.xxx.xxx
ค. ตั้งแต่ 192.168.0.xxx ถึง 192.168.255.xxx
ง. ไม่มีข้อถูก

5. สำหรับภายในองค์กร ก็มีหมายเลขต้องห้ามใช้คือหมายเลขใด
ก. 127.xxx.xxx.xxx
ข. 0.0.0.0
ค. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ง. ไม่มีข้อถูก




วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551

11.06.2551

-/20
11111111 .11111111 .11110000 .00000000
Subnet Mask = 255.255.240.0
Host = 2 ^ 12 = 1096 - 2 = 1094 Host

แปลง IT เป็น Binary

แปลง IT เป็น Binary
32bit
202.29.57.2
11001010.00011101.00111001.00000010
class c

web นักศึกษา ห้อง 1 & 2

From:kimsath sath (kimsathsath@yahoo.com)http://kimsath.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:Gus m (guszaa_m@hotmail.com)http://guszaa.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นายจำนงค์ ศรีมาศ (srimas2007@hotmail.com)http://jumnong.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ชยาพงษ์ วังตะเคน (mo.04@hotmail.com)http://thekop-momo.blogspot.com^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:sulak Phonboon (sulak_laky@hotmail.com)http://sulak-noy.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:khamsan khampang (khampang3@hotmail.com)http://khampang.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ชาตรี แก้วมณี (chatree_05@thaimail.com)http://chatree-ton.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:มยุลี เสมศรี (mayulee8787@hotmail.com)http://mayulee8787.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นางสาว จันทร์ กฤษวี (janjun1@hotmail.com)http://janjun.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นางสาวประภาศิริ สุทธิหนู(nemo_yung@hotmail.com)http://lylulnlgl.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:sam an leakmuny (leakmuny@yahoo.com)http://leakmuny-sam.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ณัชพร ไชยมูล (clash_oud@hotmail.com)http://khukhan-bantim.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:วาฤดี สัมนา (waruedee_49@hotmail.com)http://waruedee.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:warawood wisetmuen (nicnicnic_02@hotmail.com)http://warawood.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:r y (overnarn@hotmail.com)http://tcomtoo.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:สุพรรษา ท่วาที (supansa_56@hotmail.com)http://puy-supansa.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:อรอุมา พละศักดิ์ (tep_ratree@hotmail.com)http://tepratree.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:สายรุ่ง พงษ์วัน (sayrung_@hotmail.com)http://koraikoo.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ศิริกัญญา ศิริญาณ (tumkatong@gmail.com)http://tumkatong.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:พรพรรณ สังขาว (aaa.37@hotmail.com)http://oake-pornpan.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นายเทิดศักดิ์ บุญรินทร์ (ton_therdsak783@hotmail.com)http://tonstaff.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นิพนธ์ ทรัพย์ประเสริฐ (nipoon_karn@hotmail.com)http://karnline.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:ทัสนีย์ ประสาร (tatsanee_1234@thaimail.com)http://ningza-tatsanee.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:wasan dujda (nong2445572@hotmail.com)http://newcastle-wasan.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:นิพนธ์ ทรัพย์ประเสริฐ์ (kan-49@hotmail.com)http://teerapon123.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^From:sophang sophaly (phangsophaly@hotmail.com)http://sophaly-phang.blogspot.com/^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^

web นักศึกษา ห้อง 2
YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: Chaloempol Yokyuth (geng_gtr@hotmail.com)http://chaloempol.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: Parina Polngam (nongnanfar@hotmail.com)http://parina-nang.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: ณัฐวุฒิ วรรณา (kon.jai.ray@hotmail.com)http://e-wutdy.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: วีระชัย ชินทอง (weerachaidong@hotmail.com)http://weedong.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: ศิริลักษณ์ ใจโชติ (tum.naruk@hotmail.com)http://pinkzosay.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: นางสาวธนาภา บุญร่วม (tip21_@hotmail.com)http://tanapa.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: ความรักทำให้คนตาบอด บูดาเบส (b_boy.eg@hotmail.com)นายเอกวิทย์ ประทีปธนากร 491225226 http://ekawit.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: pornpun intanun (nuthicha@hotmail.com)http://nuthicha.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: นางสาวสุนันทา จันมนตรี (rosri21@hotmail.com)http://rosri.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: นิโรบล ศรีวิชัยยศ (tanoy17@hotmail.com)http://yakumi-tanoy.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: ธวัชชัย ปรือปรัง (sek.7@hotmail.com)http://dekduecub.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: นายสุวัฒน์ บัวจันทร์ (kero_pee_1@hotmail.com)http://keropee.blogspot.comYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: ประครอง วันทะวงษ์ (auto_7991@hotmail.com)http://roseka.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: ชัชวาล ถิ่นนาไห (dexonhud@hotmail.com)URL: http://chadchawal.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: สมปอง แสงสิงห์ (sompong.sangsing@hotmail.com)http://sompong19.blogspot.comYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: ธงชัย ราชสิฃห์ (pktp_9@hotmail.com)http://dexhudmai.blogspot.com/YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYFrom: วิทยา สุดหล้า (teawit.la@hotmail.com)http://longchimyung.blogspot.com/

ข้อสอบ OSI Model

ข้อสอบ OSI Model
1.OSI เป็น model ในระดับแนวคิด ประกอบด้วย Layer กี Layer
ก.5 Layer
ข.6 Layer
ค.7 Layer
ง. Layer
2. Data Link Layer คือ layer ที่
ก. Layer 1
ข. Layer 2
ค. Layer 3
ง. Layer 4
3.หน่วยของข้อมูลในระดับ Network Layer ที่มีรูปแบบการเชื่อมต่อแบบ Connectional Less คือ
ก.Packet
ข.Segment
ค.Datagram
ง.Frame
4. Datalink Layer
ก.ทำหน้าที่สร้างการเชื่อมต่อ, การจัดการระหว่างการเชื่อมต่อ และการตัดการเชื่อมต่อ
ข.เป็นชั้นบนสุดของแบบจำลอง ISO/OSI เป็นชั้นที่ใช้บริการของชั้น Presentation
ค.เป็นชั้นที่อธิบายถึงการส่งข้อมูลไปบนสื่อกลาง ชั้นนี้ยังได้ถูกแบ่งออกเป็นชั้นย่อย
ง.เป็นการอธิบายคุณสมบัติทางกายภาพ เช่น คุณสมบัติทางไฟฟ้า และกลไกต่างๆ ของวัสุที่ใช้เป็นสื่อกลาง
5. Layer4 ,Transport Layer
ก. เป็น Layer ที่มีหน้าที่หลักในการแบ่งข้อมูลใน Layer
ข.เป็น Layer ที่ควบคุมการสื่อสารจากต้นทางไปยังปลายทางแบบ End to End
ค.เป็นชั้นที่อยู่บนสุดของขบวนการรับส่งข้อมูล ทำหน้าที่ติดต่อกับผู้ใช้

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ข้อสอบรหัสแอสกี

ก. สถานะทางไฟฟ้า เปิด และ ปิด แทนด้วยเลข 1 และ 0 ตามลำดับ เราเรียกเลขนี้ว่าอะไร
1. ระบบเลขฐานสอง

2.ระบบเลขฐานแปด
3. ระบบเลขฐานสิบ
4.ระบบเลขฐานสิบหก
. ข้อใดเป็นคำศัพท์ที่สมบูรณ์ของคำว่า “ASCII”
1. American Standard Code for Information Institute
2. American Standard Code for Institute Information
3. America Standard Coding for Information Instituteง.
4.America Standard Coding for Institute Information
ค.รหัสแอสกีเป็นรหัสกี่บิต
1.2บิต
2.4บิต
3.6บิต
4.8บิต

ประวัติ muny

Name : Sam an leak muny
phone number : 0857808781
year : 3
age : 24
dat, brith :30.10.1985
ID :4912252160


SAM AN
53 41 4D 41 4E
0101 0011, 0100 0001, 0100 1101, 0100 0001, 0100 1110

LEAK MUNY
4C 45 41 4B 4D 55 4E 59
0100 1100,0100 0101, 0100 0001, 0100 1011, 0100 1101, 0101 0101, 0100 1110, 0101 1001

0857808781
0000 0000,0000 1000, 0000 0101 , 0000 0111, 0000 1000, 0000 0000,0000 1000,0000 0111,0000 1000,0000 0001